god of war 2 รีวิว กราบขออภัยที่รีวิว God of War 2 ช้าไปพอสมควร ภารกิจหลายประการที่ทำให้เล่นมันไม่จบเสียที เชื่อว่าเกมนี้แทบจะไม่ต้องแนะนำหรือรีวิว แฟนเกมที่เคยเล่นภาคแรกมาแล้วก็ต้องซื้อหาจับจองกันเป็นที่แน่นอนอยู่แล้ว ยิ่งใครได้ลองตัวเดโมมาแล้วก็ยิ่งเพิ่มความหื่นกระหายที่อยากจะเล่นเกมตัวเต็มทันที งานเขียนชิ้นนี้น่าจะเป็นแหล่งระบายความประทับใจในตัวเกมสำหรับผู้อ่านซะมากกว่า
นำเกมเก่าgod of war 2 รีวิว
god of war 2 รีวิว ความเป็นมาเป็นไปของ “ก๊อด ออฟ วอร์ 2” ยังคงยึดโครงเรื่องตามศึกความขัดแย้งกันระหว่างหมู่เทพเจ้ากรีก โดยได้เดินเรื่องต่อจากภาคก่อน หลังจาก “เครโทส” ตัวเอกของเกมได้ขึ้นเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามแทนที่ “แอรีส” ด้วยการที่พระเอกของเกมเป็นพวกสปาร์ตัน เขาไม่อาจทนได้เมื่อพี่น้องร่วมชาติต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบาก จึงตัดสินใจลงไปช่วย แม้จะถูก “อาธีนา” ทัดทาน แต่ก็มิอาจรั้งเขาได้ อาธีนาจึงต้องพยายามขัดขวางด้วยการเสกให้โคลอสซุสมีชีวิต
ต่อมา“ซุส”จอมเทพผู้ครองโอลิมปุสได้รู้ถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ จึงแกล้งส่งดาบแห่งโอลิมปุสมาช่วยเหลือ แต่พอเครโทสกำลังจะดึงดาบมาใช้ พลังของเขาก็กลับสูญสิ้นไป เรื่องราวของเกมภาคนี้จึงถือกำเนิดขึ้น โดยมี “กายา” เทพแห่งไททันให้การช่วยเหลือเครโทสเพื่อกำจัดซุส ความซับซ้อนของเนื้อหาเกมจะอ้างอิงเทพนิยายกรีกอยู่พอสมควร ตอนจบจะเกิดการหักมุมอย่างไร คงต้องไปตามเล่นกันเอาเองรับรองว่าสนุกและน่าติดตามทีเดียว
เนื้อเรื่องสุดเข้มข้น
ความเมามันในเกมภาคนี้ยังคงคุกรุ่นให้ผู้เล่นได้ตื่นเต้นไปกับฉากแอคชั่นและการแก้ปริศนาตลอดทั้งเกมได้ไม่แพ้ในภาคแรกเมื่อ 2 ปีก่อน ผู้เล่นหน้าใหม่อาจไม่จำเป็นต้องย้อนกลับไปเล่นในภาคเก่าก็ได้ ซึ่งไม่ทำให้อรรถรสในการเล่นเกมนี้ลดลงเท่าไร ตัวเกมแยกระดับความยากง่ายออกเป็น 4 ระดับ แต่ระดับที่ยากสุด Titan นั้นได้ถูกล็อคไว้จนกว่าจะจบเกมได้ครั้งหนึ่งเสียก่อน ผู้เล่นต้องเก็บสะสม Orb สีต่างๆเพื่อใช้งานและอัพเกรดอำนาจวิเศษที่หาได้จากหีบและตัวศัตรูที่เราฆ่ามันได้ ขณะที่การเก็บ Gorgon eyes และ Phoenix Fxeathers ในหีบที่หลบซ่อนอยู่ในฉากที่ช่วยเพิ่มความยาวของขีดพลังยังคงเก็บตามเดิม ส่วนพลัง Rage of the Titans ที่ช่วยให้เรามีพลังทำลายล้างสูงขึ้นสามารถกดใช้ได้เลยเมื่อต้องการ (L3+R3)
เทคนิคการกดปุ่มตามที่ตัวเกมกำหนดมาให้ทันท่วงทีและศัตรูในฉากแต่ละตัวที่ใหญ่โตมโหฬารยังคงเป็นจุดเด่นและสีสันให้กับเกมนี้เช่นเคย ฉากมูฟวี่ที่ตัดมาสลับกับการกดปุ่มให้ตรงนั้นเหมือนเป็นการให้ผู้เล่นมีส่วนร่วมไปกับเกมกว่าการได้แค่นั่งพักชมเฉยๆ ซึ่งหากเป็นเกมอื่นที่ไม่ได้คำนึงถึงการทำให้ผู้เล่นคล้อยตามเนื้อเรื่องเกม ผู้เล่นบางคนคงมีการกดปุ่มข้ามไปนานแล้ว
แนะนำอาวุธใหม่ในภาคนี้
อาวุธใหม่ที่เพิ่มเข้ามาให้ใช้ก็มีค้อนบาร์บาเรียนและหอกแห่งโชคชะตาที่ช่วยให้ทุบและแทงศัตรูได้หนักหน่วงขึ้นแต่ก็ทำให้เราโจมตีได้เชื่องช้าขึ้นตามปกติ ซึ่งด่านหลังๆหลายคนแทบจะไม่ค่อยได้ใช้ มักจะใช้พลังย้อนกลับเมื่อศัตรูปล่อยพลังออกมามากกว่าทั้งๆที่มันอาจช่วยให้เราผ่านด่านบางด่านได้ง่ายกว่าใช้อาวุธธรรมดา ด้านพลังวิเศษที่เพิ่มเติมเข้ามาใหม่ก็เป็น “พลังทุบปฐพี”หรือ Atlas Quake ส่วนพลังอื่นๆก็คล้ายเดิมเพียงแค่เปลี่ยนชื่อใหม่
บางครั้งฉากสู้กับบอสใหญ่อาจจะไม่ได้ยากเย็นอะไรนักเมื่อเทียบกับฉากที่ก่อนจะเจอ “Clotho” เจ้าอ้วนเต้าใหญ่ยักษ์ ซึ่งจะมีผนังแสงสีเขียวมากั้นไปเรื่อยๆ พร้อมกับบรรดาลูกกระจ๊อกจำนวนมาก หากผู้เล่นไตร่ตรองดูให้ดีจะมีอาวุธอันหนึ่งที่ช่วยผู้เล่นได้มากทีเดียวโดยที่คุณอาจลืมประโยชน์ของมันไป(เหมือนกับผม)
ความงามของฉากที่ทำให้ผู้เล่นรับรู้ถึงความอลังการของเกม ยังคงถูกนำมาใช้อีกเช่นเดียวกันด้วยภาพที่ในมุมมองที่กว้างสุดลูกหูลูกตา เรียกว่าผู้พัฒนาเกมทำออกมาได้ดี ไม่ว่าจะเป็นฉากเดินไปตามโซ่ล่ามม้ายักษ์ 4 ตัว หรือฉากในป่า ส่วนฉากขี่ม้าบินรบกลางอากาศหรือห้อยโหนตามเสาแบบดอริคนั้นค่อนข้างแจ่มแจ๋ว ทำให้ได้ความรู้สึกที่แตกต่างไปจากรูปแบบการนำเสนอเดิมๆได้ พอๆกับการใช้อาวุธปักไปบนเพดาน ผนัง กำแพงและและการให้ตัวเอกของเราติดปีกบินได้(ความจริงแค่ร่อนในระยะสั้นๆ ต้องอาศัยแรงลมถึงจะไปได้ไกล)ที่ยอมรับว่าทำได้ไม่เลว เพียงแต่ยังดูขัดหูขัดตาพิลึกกับท่าทางบางจังหวะในการเคลื่อนไหวในน้ำเท่านั้น
เทคนิคการเล่นต่างๆ
เทคนิคการแก้ไขปริศนาที่สร้างความปวดหัวที่หลายคนมักพาลนึกว่าเป็นบักของเกมนั้นต้องอาศัยการสังเกตองค์ประกอบโดยรวมของฉากให้ดีจึงจะผ่านมันไปได้ไม่ยาก มูฟวี่คั่นระหว่างฉากทำออกมาเป็น 2 คุณภาพทั้งแบบเนียนๆภาพสวยกับแบบใช้ตัวละครโพลิกอน เหมือนมีสองมาตรฐานยังไงไม่รู้ แต่การขยับปากตามเสียงพากย์นั้นก็ทำออกมาได้ตรงเป๊ะๆทีเดียว ส่วนดนตรีประกอบก็ยังคงสร้างอารมณ์ที่ปลุกเร้าตลอดการเล่นได้ตลอดทั้งเกม เข้าขั้นยอดเยี่ยม
ระหว่างเล่นยังพบคำว่า “Loading” อยู่ประปราย และยังใส่ฉากมินิเกมส่อไปทางเพศอยู่ตั้งแต่ฉากแรกๆ หากใครไม่ได้เล่นแบบถี่ถ้วนหรือไม่ได้อ่านข่าวมาก่อนก็อาจจะไม่ทราบ ตัวละครส่วนใหญ่ที่เป็นผู้หญิงมักจะเปลือยหน้าอกออกมาให้เห็นบ่อยครั้ง ซึ่งไม่น่าจะเหมาะสำหรับเกมเมอร์รุ่นเด็กเล็กๆ รวมไปถึงฉากการต่อสู้ที่ทำออกมาได้เลือดสาดกระจายโหดร้ายจนเกินไป
ส่วนตัวเชื่อว่าหลายคนที่เล่นเกมนี้จนจบคงอิ่มเอิบใจไม่น้อย หากเอาชนะได้โดยที่ไม่ได้พึ่งพาตัวช่วยใดๆเลย ต้องขอชื่นชมการดึงศักยภาพของ PS2 ออกมาใช้ได้อย่างดีเยี่ยม คุณภาพของภาพเทียบเท่าเกมบนเครื่อง Next Gen บางเกมได้เลย เมื่อดูแล้วน่าจะเป็นเกมสุดเจ๋งที่ปิดท้าย เครื่อง PS2 เสียด้วยซิ และก็คงไม่ต้องเดาเพราะตอนจบทุกคนจะทราบว่าเกมนี้จะออกภาค 3 อย่างแน่นอน